พิษแล้ง แถมเจอลมพายุพัดต้นเสียหาย ทำเอากล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม ราคาแพง

ชาวไทยเชื้อสายจีนในหลายพื้นที่ เริ่มมีการจับจ่ายซื้อสินค้าเครื่องเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลสารทจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.ย.63 นี้ ส่งผลทำให้สินค้าเครื่องเซ่นไหว้หลายรายการ มีการขยับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะกล้วย ทั้งกล้วยหอม และกล้วยน้ำว้า..ที่มีราคาสูงถึงหวีละ 60 บาท

       
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.63  ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบใน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อพบกับเจ้าของไร่กล้วย คือ นางศิริกัญญา ดนุศักดิ์เดชา อายุ 40 ปี แม่ค้าขายของตลาดนัด ที่หันมาปลูกกล้วยหลากหลายสายพันธุ์กว่า 6 ปี เป็นอาชีพเสริม ส่งขายสร้างรายได้งามโดยเฉพาะช่วงเทศกาล

     
นางศิริกัญญา เปิดเผยว่า ตนได้เริ่มเข้ามาบุกเบิกพื้นที่จำนวน 6 ไร่ เพื่อทำเกษตรสวนผสม โดยเน้นการปลูกกล้วยเป็นพืชหลักทั้งกล้วยหอมทอง กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง กล้วยหักมุก กล้วยไข่กำแพงเพชร และกล้วยเล็บมือนาง ด้วยเห็นว่าเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องดูแลมาก สามารถขยายต้นพันธุ์ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องลงทุนเพิ่มและให้ผลผลิตตลอดทั้งปี  แต่เนื่องจากในปีนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีประเทศไทยมีสภาพอากาศแห้งแล้ง ทำให้ต้นกล้วยหลายแห่งขาดน้ำ ไม่ออกผล หรือออกมาก็ไม่ได้คุณภาพ กระทั่งเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ก็ยังต้องเผชิญกับพายุ หลายพื้นที่มีลมพัดแรงจนทำให้ต้นกล้วยล้ม ผลกล้วยอ่อน และฝนตกชุกจนทำให้เกิดหนอนกอไส้เน่า ผลผลิตกล้วยในท้องตลาดจึงมีน้อย จนมีการขยับราคาตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

       
โดยปัจจุบันราคาหน้าสวน กล้วยน้ำว้า ราคาอยู่ที่ 30 - 60 บาทต่อหวี และกล้วยหอมทองราคา 120 - 150 บาทต่อหวี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด สำหรับผลผลิตที่ได้ ตนจะจำหน่ายเองไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยส่วนหนึ่งจะวางจำหน่ายที่หน้าร้าน และอีกส่วนหนึ่งก็จะมีลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าผ่านเฟสบุ๊ค ด้วยมั่นใจว่ากล้วยที่ได้มีคุณภาพดี ผิวสวย ลูกใหญ่ ได้อายุตัด และไม่บ่มแก๊ส