สำนักงานอัยการศาลสูงภาค 7 แถลงความคืบหน้าอุทธรณ์"เปรมชัย"กับพวก คดีเสือดำ


เมื่อวันที่ 24 พ.ค.62 ที่ห้องประชุมยกกระบัตรเมืองราชบุรี  สำนักงานอัยการภาค 7  อ.เมือง จ.ราชบุรี นายสุนทร สุรวัฒนาวงศ์  อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7  นายบุญธรรม วิริยะประสิทธิ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7  นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ  เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  นายอภิชาติ ต่อดำรง อัยการฝ่ายคดีศาลสูง  1 ภาค 7 ร่วมกันแถลงผลความคืบหน้าตามที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ได้ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก รวม 4 คน  ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ  ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้มีคำพิพากษาคดีดังกล่าว ดังนี้

1.นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 มีความผิดตามฟ้องโจทก์ข้อหา ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในสาธารณะฯโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 6 เดือน ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(ไก่ฟ้าหลังเทา ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุกนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 16 เดือน โดยให้ยกฟ้อง 2 ข้อหาฐานร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง 2.นายยงค์  โดดเครือ จำเลยที่ 2 ข้อหา ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 เดือน ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะฯโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน  ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำและไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 13 เดือน โดยยกฟ้อง 2 ข้อหา ร่วมกันล่าสัตว์ป่า (เสือดำ)ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ  3.นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 ลงโทษเพียงข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำและไก่ฟ้าหลังเทา)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือนและปรับเป็นเงินอีก  10,000 บาท  โดยโทษจำคุกนั้นให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี  ยกฟ้องฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะฯโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานร่วมกันพาอาวุธไปในทางสาธารณะฯ โดยไม่มีเหตุสมควร  4.นายธานี ทุมมาศ หรือ พรานแกละ จำเลยที่ 4 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 เดือน ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำและไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะฯโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน พยายามล่าสัตว์ (กระรอก) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 4 เดือน ล่าสัตว์ป่า(เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 1 ปี และเก็บของป่า(ซากสัตว์) ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี  17 เดือน

โดยศาลยังพิพากษาให้นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 2 ล้านบาท (มูลค่าความเสียหายเสือดำ) พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
หลังจากที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ มีคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว ต่อมา นายสุนทร  สุรวัฒนาวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7  ได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาถ้อยคำ สำนวนและคำพิพากษาของศาลจังหวัดทองผาภูมิ โดยมีนายอภิชาต ต่อดำรง อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลสูง 1 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และนายสมชาย ศักดิ์สุนทร อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรี และ ร.ต.อ. สัมฤทธิ์ อิ้งจะนิล อัยการอาวุโส ทำหน้าที่อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรี เป็นคณะทำงาน แล้วเสนอตามลำดับชั้นให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7 เพื่อพิจารณามีความเห็นและมีคำสั่งคือ
นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า(ศาลจังหวัดทองผาภูมิวินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุน) อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม(ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว)  อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน  อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง 2.นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะฯโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพ  อุทธรณ์ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์(ศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง)  อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง  ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิ ยกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว)  อุทธรณ์ข้อหา ร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจังหวัดทองผากภูมิพิพากษาว่า เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน 3.นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง ซึ่งศาลจ.ทองผาภูมิยกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม(ศาลจ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว)  อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000  บาท เต็มตามฟ้อง 4.นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4  อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นการให้การับสารภาพ  อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว)  อุทธรณ์ให้ลงโทษสูงขึ้น ฐานความผิดพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์ฯ ศาลจ.ทองผาภูมิลงโทษจำคุก 4 เดือน โจทก์เห็นว่าน้อยไป อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิด หลายกรรมต่างกัน ศาลจ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน  อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวนจำนวน 3,012,000  บาท เต็มตามฟ้อง นอกจากนี้ประเด็นศาลพิพากษาให้คืนเกลือป่น ถุงเกลือป่น (ถุงเปล่า) ถุงดำ และรถยนต์ แบบนั่งสองตอนของกลาง อุทธรณ์ขอให้ริบ (เห็นว่าเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำผิด)

นายสุนทร สุรวัฒนาวงศ์  อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7 เปิดเผยว่า โทษที่เป็นตัวการกับโทษที่เป็นตัวสนับสนุนแตกต่างกันคือจะรับโทษแค่ 2 ใน 3 ของตัวการ ซึ่งได้พิจารณาจากข้อเท็จจริง ซึ่งตอนที่ฟ้อง ได้มองว่าเป็นตัวการเพราะมีการร่วมมือร่วมใจกันในการที่จะเข้าไปทำ  แต่ศาลใช้ดุลพินิจของท่านว่าคดีนี้ท่านมองแค่สนับสนุน แต่ถ้าเราเห็นต่างไม่เห็นพ้องด้วยเราก็อุทธรณ์ไป สำหรับในฐานที่มีการฟ้องเราฟ้องเป็นตัวการ แต่ศาลชั้นต้นท่านลงเป็นผู้สนับสนุนโทษเป็น 2 ใน 3  แต่ถ้าหากเป็นตัวการ หมายความว่าตัวการที่ศาลลง สำหรับจำเลยที่ 4 ว่าเป็นตัวการล่าเสือดำ ถ้าฟังว่าจำเลยที่เราอุทธรณ์ไปเป็นตัวการ โทษที่ลงไปกับจำเลยที่ 4 ก็จะมาลงโทษด้วยเท่ากัน

สำนักงานอัยการศาลสูงภาค 7 แถลงความคืบหน้าอุทธรณ์"เปรมชัย"กับพวก คดีเสือดำ สำนักงานอัยการศาลสูงภาค 7 แถลงความคืบหน้าอุทธรณ์"เปรมชัย"กับพวก คดีเสือดำ Reviewed by ข่าวลุงเขี้ยว on พฤษภาคม 24, 2562 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

รูปภาพธีมโดย Roofoo. ขับเคลื่อนโดย Blogger.