สุดเซ็ง เด็กแว้นจับกลุ่มแข่งรถ จยย.กลางดึก ก่อกวนชาวบ้านไม่ได้หลับนอน (ชมคลิปในข่าว)

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Eye Chalita” ได้โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์บนถนนทรงพล บริเวณแยกไฟแดงหัวโป่ง หมู่ 3 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ที่มีกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ลักษณะแต่งซิ่ง  ขี่รถแข่งกัน และเบิ้ลเครื่องรถส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านในช่วงกลางดึกของทุกคืน พร้อมข้อความ “ไม่รู้จะทำยังไงละกับปัญหานี้ และไม่รู้จะมีหน่วยงานไหนจะมาจัดการจริงๆจังๆได้สักที กราบเถอะ #ตรงแยกไฟแดงหัวโป่ง โพสทีตำรวจก็มาจัดการที  ไม่กี่วันก็มาอีก ไม่ต้องได้หลับได้นอนกันดีๆหรอก เกือบทุกคืน ไม่ได้มารอบเดียวแล้วไป แต่วนเป็นสวนสนุกกันไปเลย ควรมีตำรวจอยู่ตลอดมั๊ยแยกนี้” โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก 

  เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.ชลิตา  คุณเกตุ  อายุ 31 ปี  ซึ่งเป็นลูกสาวของ “แช่มทอง คุณเกตุ” อดีตแชมป์โมโตครอสแห่งประเทศไทย ปี 2529-2530  โดย น.ส.ชลิตา นั้นมีบ้านพักอาศัยอยู่ริมถนนทรงพลใกล้ๆกับแยกไฟแดงหัวโป่งและเป็นผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย น.ส.ชลิตา ได้เปิดเผยว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้กับแยกไฟแดงหัวโป่ง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 18 พ.ย. 2563 ขณะที่ตนพร้อมด้วยครอบครัว กำลังพักผ่อนนอนหลับกันอยู่ในบ้าน ก็ต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงรถจักรยานยนต์จำนวนหลายสิบคัน ที่มาจอดและเบิ้ลเครื่องเสียงดังมาก พร้อมกับขับขี่รถ วนไปมา โดยใช้จุดแยกไฟแดงเปรียบเสมือนจุดปล่อยแข่งรถกลุ่มนักซิ่ง ด้วยความโมโหและอึดอัดใจ ตนจึงตัดสินใจถ่ายคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน แล้วเดินออกไปต่อว่า กลุ่มเด็กวัยรุ่นดังกล่าว 

 โดยภาพที่เห็น จะมีเยาวชนทั้งผู้ชายและผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายกัน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง บางคันไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และกระจกมองหลัง รวมทั้งยังปิดไฟหน้าและไฟท้ายด้วย ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้ง 191 หลังจากนั้นสักพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ออกมาตรวจสอบ กลุ่มวัยรุ่นพากันแยกย้ายหลบไป หลังจากเจ้าหน้าที่กลับไปไม่นานกลุ่มวัยรุ่น ก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาแข่งกันเหมือนเดิม จนเวลาล่วงเลยประมาณ 03.00น. เสียงจึงเงียบไป ที่ผ่านมาปัญหาวัยรุ่นแข่งรถบนถนนสายนี้ มีมานานหลายปีแล้ว โดยหลังจากมีการก่อสร้างแยกไฟแดงหัวโป่ง ทำให้กลุ่มวัยรุ่นมักมาจับกลุ่มประลองรถกันบริเวณนี้เป็นประจำ จนชาวบ้านเอือมละอา แม้กระทั่งในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รัฐบาลมีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านในเวลากลางคืน ก็ไม่สามารถทำอะไรนักซิ่งเหล่านี้ได้ ยังคงสร้างความเดือดร้อน มีการแข่งรถกันเป็นปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำได้แค่เพียงลงพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถติดตามตัวคนเหล่านี้มาดำเนินคดีได้    

น.ส.ชลิตา กล่าวต่อไปว่า  ในบางครั้งขณะที่ตนกำลังถ่ายคลิปหลักฐาน  เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็น ยังแสดงอาการเบิ้ลเครื่องรถใส่เยาะเย้ยอีกด้วย  ตนจึงตัดสินใจนำคลิปภาพมาลงในโลกออนไลน์ สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหวังว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงสังคมจะช่วยกันแก้ปัญหาการแข่งซิ่ง โดยเริ่มจากแต่ละครอบครัวช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน   ในส่วนของน้องๆ วัยรุ่นสายซิ่ง ตนอยากฝากว่า  “อย่าสร้างความเดือดร้อนให้ใคร วันหนึ่งที่น้องๆ โตขึ้น ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นมันไม่ได้ดูเท่ หรือช่วยให้ดูดีขึ้น แต่กลับจะทำให้สงสารพ่อแม่และผู้ปกครอง ที่ต้องมานั่งหน้าซึม รับผิชอบในสิ่งที่บุตรหลานตัวเองกระทำต่อคนในสังคม”