กลุ่มโจ๋สัญญาใจ ผู้กำกับโรงพักบ้านโป่งและกำนันตำบลดอนกระเบื้อง"หนูเชื่อลุง"เลิกแว้นแต่งรถจักรยานยนต์ เด็ดขาด

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2563 พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อม พ.ต.ท.ธารา ศรีพรหมคำ รอง ผกก.ป. นายอดุลย์ นิมิตนิวัฒน์ กำนัน ตำบลดอนกระเบื้อง และฝ่ายปกครอง ร่วมกันทำโครงการ “หนูเชื่อลุง” ลดจำนวนเด็กแว้นในพื้นที่ โดยมีกลุ่มเด็กและเยาวชนที่แต่งรถ ท่อเสียงดัง สมัครใจในพื้นที่มาเป็นต้นแบบ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้นำป้ายข้อความ “หนูเชื่อลุง ต.ดอนกระเบื้อง บ้านนี้จะไม่มี ท่อไอเสียเสียงดัง (เกินกฎหมายกำหนด)” ที่ลงลายมือชื่อผู้ปกครอง กำนัน และผู้กำกับ ไปแปะติดที่หน้าบ้านของกลุ่มเยาวชนต้นแบบ พร้อมเกี่ยวก้อยสัญญาใจกัน

นายอดุลย์ นิมิตรนิวัฒน์ กำนัน ต.ดอนกระเบื้อง เปิดเผยว่า ตำบลดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ประกอบด้วย 9 หมู่บ้าน มีถนนสายหลัก 2 สาย ทั้งเพชรเกษมสายเก่าและสายใหม่ สำหรับใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยัง จ.นครปฐม จ.ราชบุรี และกาญจนบุรี ด้วยสภาพถนนที่เรียบและระยะทางที่ตรงยาว ทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นและนักแข่งรถจากที่ต่างๆ มักจะมาจัดแข่งประลองฝีมืออยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน  ที่ผ่านมาแม้จะมีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่หมดไป อีกทั้งยังเกรงว่าเยาวชนในพื้นที่จะลอกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้
ฝ่ายปกครองตำบลดอนกระเบื้อง เห็นว่าการทำงานในเชิงรุก เริ่มด้วยการลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเยาวชน ทั้งกลุ่มที่มีการแต่งซิ่ง ดัดแปลงสภาพรถ และขับขี่รถเร็ว จากนั้นจะใช้วิธีพูดคุยความสัมพันธ์เชิงเครือญาติ ด้วยความรัก ห่วงใย สร้างความเข้าใจในปัญหา แนะนำข้อกฎหมายให้กับเด็กและผู้ปกครอง โดยจะไม่ใช้วิธีบังคับ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ปรับเปลี่ยนทัศนคติไปในทิศทางที่ดี และหันกลับมาเป็นเยาวชนต้นแบบทำความดีเพื่อสังคม

พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง กล่าวว่า ปัญหาการแข่งรถจักรยานยนต์ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ สภ.บ้านโป่ง ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ที่มักจะมีวัยรุ่น นัดชุมนุมจับกลุ่มตามจุดต่างๆ เพื่อแข่งขันประลองความเร็ว สร้างความเดือดร้อนรำคาญและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป  ซึ่งโครงการ “หนูเชื่อลุง” จึงเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเป็นความร่วมมือกันของตำรวจ ฝ่ายปกครอง ครอบครัว และเยาวชน ในช่วงแรกจะเป็นการว่ากล่าวตักเตือน สร้างความเข้าใจ การเป็นพลเมืองดีมีความรับผิดชอบต่อสังคม เปิดโอกาสให้ไปปรับเปลี่ยนสภาพรถกลับมาถูกกฎหมายเหมือนเดิมภายในระยะเวลา 7 วัน  ทั้งนี้จะมีการติดตามประเมินผลเป็นระยะ และหากพบว่ากลุ่มวัยรุ่นยังกลับไปแต่งรถท่อดังเหมือนเดิม ก็จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป.