คุณป้าวัย 72 ประธาน อสม.สวนกล้วย โวย สายเคเบิ้ลตกขวางถนน เกี่ยวทำ จยย.ล้ม จนตัวเองเจ็บ

 

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.63 นางปรานอม วันเพ็ญ อายุ 72 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.สวนกล้วย หมู่ 3) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  และเป็นประธาน อสม. ต.สวนกล้วย  ซึ่งมีสภาพใบหน้า บริเวณหัวคิ้วและขอบตาขวา บวม  ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ถูกสายสื่อสารโทรคมนาคม หรือสายเคเบิ้ล  ร่วงหล่นใส่ ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่าน ทำให้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับพาไปดูตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ

นางปรานอม เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงสายของวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังเดินทางกลับบ้านพัก หลังจากไปประชุมคณะ อสม.ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพสวนกล้วย เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ มาตามถนนทางเข้าวัดหนองหญ้าปล้อง หมู่ 8 ต.สวนกล้วย  เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงทางโค้ง จู่ๆ สายเคเบิ้ลที่พาดผ่านเสาไฟฟ้าก็ร่วงลงมาหล่นใส่ที่รถของตน โดยตนได้พยายามหักหลบ แต่สายสื่อสารฯ ได้พันเข้ากับกระจกมองหลังข้างขวา ทำให้รถล้ม จนเป็นเหตุให้ตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ศีรษะ แขน และขาทั้ง 2 ข้าง โดยเฉพาะบริเวณหางคิ้วด้านขวาที่มีอาการเขียวบวม และมีเลือดคลั่งรอบดวงตา เพื่อนๆ อสม. ที่ขับขี่รถมาพร้อมกัน จึงได้ช่วยนำตนกลับไปรักษาและทำแผลที่ รพ.สต. หลังจากนั้น ส.ต.อ.พิพัฒน์  รัตนนุพงศ์ ปลัด อบต.สวนกล้วย และพรรคพวก อสม.ที่มาด้วยกัน ได้ย้อนกลับไปดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็พบว่าสายที่หล่นลงมาเป็นสายเคเบิ้ล ไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทใด แต่ขอบสายมีลักษณะเป็นสีม่วง และเมื่อแหงนมองขึ้นไปที่เสาไฟฟ้า ก็พบว่ากลุ่มสายเคเบิ้ลของบริษัทต่างๆ ไม่ได้ติดตั้งติดไว้กับเสาไฟฟ้า แต่กลับโยงพาดผ่านเสากินพื้นที่ถนน จึงทำให้เมื่อเกิดพายุพัด ฝนตกหนัก สายเคเบิ้ลหล่นลงมาบนถนน จนตนต้องประสบอุบัติเหตุ อย่างที่ไม่น่าจะเกิด  

นางประนอม กล่าวต่อไปว่า หากวันนั้นตนไม่สวมหมวกกันน๊อค ก็คงจะได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้ ซึ่งเหตุการณ์สายเคเบิ้ลหล่นบนถนน ในพื้นที่มีอยู่บ่อยครั้ง จากนั้นเป็นต้นมา เวลาตนไปที่ไหนก็มักจะพูดเตือนชาวบ้านเสมอว่า “ขับรถเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ระวังรถคันหน้า แต่ต้องแหงนมองขึ้นฟ้าด้วย เพราะกลัวสายเคเบิ้ล” แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วเกือบ 10 วัน และร่องรอยบาดแผลภายนอกจะเริ่มจางหายบางแล้ว แต่อาการปวดที่ศีรษะ ซี่โครง และขาก็ยังคงมีอยู่ ด้วยอายุกว่า 70 ปีแล้ว ทำให้ลูกๆเป็นห่วงและเกรงว่า ผลจากอุบัติเหตุจะทำให้เป็นอันตรายแก่สุขภาพได้ในอนาคต ตนจึงได้เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านโป่ง และหวังว่าบริษัทเจ้าของสายเคเบิ้ลดังกล่าว จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ  ซึ่งตนขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทเจ้าของสายเคเบิ้ล ให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินการจัดเก็บสายเคเบิ้ลที่ไม่ได้ใช้งานและที่ตกหล่นลงมาให้เรียบร้อย จะได้ไม่เกิดอันตรายกับผู้อื่น แบบเหมือนตนอีก.