ศึกชิงเก้าอี้ นายกเล็กเทศบาลเบิกไพร"หมวดอ้อย ท้าชน ดาบตำรวจสินชัย"แชมป์เก่า

ตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี มี 12 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 17.12 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มีประชากร 16,073 คน มีผู้สิทธิ์เลือกตั้ง 12,587 คน ตำบลเบิกไพร ได้รับการยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.เบิกไพร) เป็นเทศบาลตำบลเบิกไพร เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2550 ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ด.ต.สินชัย สุวรรณพฤกษ์ ได้รับการเลือกเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร 2 สมัยติดต่อ รวมทั้งรักษาการนายกเทศมนตรี ตามคำสั่งของ คสช. รวมกว่า 13 ปี 

 

การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเบิกไพร และนายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 แม้จะเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ชาวบ้านทุกคนต่างพากันให้ความสนใจและตื่นตัวไม่แพ้พื้นที่อื่น  เพราะจะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น 2 กลุ่ม คือ ”ทีมเบิกไพรพัฒนา” ซึ่งเป็นกลุ่มฐานอำนาจเก่า มี ด.ต.สินชัย สุวรรณพฤกษ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร เบอร์ 1 เป็นหัวหน้าทีม ส่วนลูกทีมลงสมัคร สท.ได้เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 6 ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง  การลงสมัครของ ด.ต.สินชัย เพื่อต้องการจะรักษาเก้าอี้นายกเล็กเบิกไพร อีกสมัย  ส่วนนโยบายการหาเสียงจะเน้นเรื่องของการพัฒนาพื้นที่เป็นหลัก เช่นการพัฒนาถนนหนทาง การส่งเสริมเกษตรกรพืชไร่ การศึกษา กีฬา รวมทั้งนโยบายพัฒนาประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน ให้มีความเข้มแข็งและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งรัฐ และมีอีกหลายโครงการที่ตั้งเป้าเอาไว้จะสานต่อให้เสร็จ เพื่อชาวบ้านตำบลเบิกไพร ในอนาคต

 

แต่นั่นก็ใช่ว่า เส้นทางการเมืองของ ด.ต.สินชัย แชมป์เก่า จะถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบตามที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะเมื่อมีกลุ่มการเมืองผสมหน้าเก่าและใหม่ ประกาศตัวขอล้มแชมป์เก่า เพื่อต้องการจะเข้าไปบริหารงานเทศบาลแทน นั่นคือ“ทีมพลังเบิกไพร” ภายใต้การคุมบังเหียนของ ร.ต.อ้อย เพชรสน ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร เบอร์ 2  ส่วนลูกทีมลงสมัคร สท.ได้เบอร์ 7 ถึงเบอร์ 12  ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง  ซึ่ง ร.ต.อ้อย อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร ได้ประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ครั้งนี้ เพราะได้แรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้นำท้องถิ่นของตำบลเบิกไพร และอดีต สท.หน้าเก่าและคนรุ่นใหม่หลายคนที่เข้าร่วมอยู่ในทีม สำหรับการลงพื้นที่หาเสียง ทีมพลังเบิกไพรมีความผูกพันกับชาวบ้านมาช้านาน จึงทราบปัญหาเป็นอย่างดี ทุกคนจึงมีความตั้งใจและจริงใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหา และจะเป็นอีกทางเลือกใหม่ของประชนชาวตำบลเบิกไพร ทำให้มองดูว่า..มาถึงวินาทีนี้แล้ว ร.ต.อ้อย ใช่ว่าจะเป็นรอง  

การเลือกตั้งในครั้งนี้ ทั้ง  ด.ต.สินชัย  แชมป์เก่า และ ร.ต.อ้อย  ผู้ท้าชิง เปรียบเป็นมวยคู่เอกที่ต่างฝ่ายต่างมีชั้นเชิงในการต่อสู้ด้วยกันทั้งสิ้น แต่สุดท้ายผลแพ้ชนะ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับประชาชนชาวตำบลเบิกไพร  ที่จะเป็นผู้ตัดสิน และพร้อมใจกันออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง เลือกคนที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้เข้าไปทำหน้าที่บริหารและพัฒนาให้เกิดความเจริญก้าวหน้า เพื่อเป็นศักดิ์ศรีแก่ตำบลเบิกไพร ต่อไป.