วันพืชมงคล ชาวสหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

 

จากปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดทำให้ นายใช้ จันทร์ภิวัฒน์ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ในพื้นที่ ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ทูลเกล้าถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2512 ณ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ โรงงานนมผงหนองโพจึงได้ถือกำเนิดและถูกพัฒนาต่อยอด จนกลายเป็นสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) จนถึงปัจจุบัน ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กระทั่งปี 2539 กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมหนองโพ จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสร้างคันไถไม้สมอขึ้นทูลเกล้าถวาย สำหรับใช้ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 

 

นายธนพล วงศ์วัฒนสิทธิ์ ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมหนองโพฯ เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทาน พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 1,002,000 บาท สำหรับก่อสร้างโรงงานนมผงหนองโพ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งคณะกรรมการบริษัทผลิตภัณฑ์นมหนองโพ จำกัด พระบรมราชานุมัติ ให้โอนกิจการของบริษัทให้กับสหกรณ์  และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อมาทรงโปรดให้ก่อตั้งมูลนิธิพระบารมีปกเกล้าในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยได้พระราชทานเงินจำนวน 129,000 บาท สำหรับเป็นทุนก่อตั้ง และให้นำดอกผลอันเกิดจากหุ้นที่สหกรณ์ฯ ขึ้นได้ทูลเกล้าฯ เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่บุตรธิดาของสมาชิก และเป็นทุนการศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมตลอดจนครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามลำดับ  ต่อมากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสร้างคันไถไม้สมอ ประกอบด้วยชุดคันไถ แอกเทียมพระโค ฐานรอง และธงสามชาย ถวายสำหรับใช้ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ นอกจากนี้ สหกรณ์ฯ ยังได้ร่วมกับศูนย์วิจัยผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพราชบุรี ทำหน้าที่ช่วยดูแลพระโคแรกนาขวัญ โดยรับหน้าที่เป็นผู้จัดหาอาหาร ตลอดจนการเข้าร่วมทำหน้าที่ในพระราชพิธีพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นประจำทุกปี ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด และเกษตรกร ตลอดจนครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้

 

 ด้าน นางไอริณ เชียงเงาะ อายุ 27 ปี อาชีพข้าราชการครู ชาวตำบลหนองโพ หนึ่งในอดีตผู้ได้รับทุนมูลนิธิพระบารมีปกเกล้าในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันแม้ตนจะมีบทบาทหน้าที่เป็นข้าราชการครู ส่งต่อความรู้ให้กับศิษย์ แต่อีกบทบาทหนึ่ง ตนก็ยังเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม แม้ว่าอาชีพนี้ จะต้องใช้ความอดทนและต่อสู้กับความเหนื่อยยาก แต่ตนก็ภาคภูมิใจ ด้วยเป็นอาชีพพระราชทาน ทำให้ครอบครัวของตนมีชีวิตและฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากไม่มีบ้าน ก็มีบ้าน มีรถยนต์ ตลอดจนการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง พระราชพิธีพืชมงคลและพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในวันพืชมงคล จึงเป็นเสมือนการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตนและเกษตรกรทั่วประเทศ ได้มุ่งทำหน้าที่กระดูกสันหลังของชาติ ขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง