โครงการสร้างเขื่อนกันตลิ่งริมแม่น้ำแม่กลอง นครชุมน์ เวทีแสดงความคิดเห็น..เดือด

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 สิงหาคม 62  ภายในศาลาอเนกประสงค์วัดตาผา ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายสมนึก แม้นจิตต์ นายก อบต.นครชุมน์ ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำแม่กลอง โดยมี ตัวแทนจากกรมโยธาธิการและผังเมืองสำนักงานใหญ่ ตัวแทนกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดราชบุรี ตัวแทนกรมเจ้าท่า พร้อมผู้นำท้องถิ่น สมาชิกสภา อบต. และชาวบ้านประมาณ 500 คน เข้าร่วมการประชุมและแสดงความคิดเห็น

นายสมนึก แม้นจิตต์ นายก อบต.นครชุมน์ กล่าวว่า พื้นที่ ต.นครชุมน์ ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง จากการสำรวจแนวริมตลิ่ง พบว่าบริเวณโค้งน้ำเกิดปัญหาน้ำเซาะจนตลิ่งทรุดตัว และการพังทลายของชั้นดิน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนและที่พักอาศัย รวมไปถึงถนนเลียบริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการสัญจร ถนนบางจุดมีการทรุดตัว ดังนั้นทาง อบต. จึงประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดราชบุรี ในจัดทำโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่หมู่ที่ 1 – 8  โดยในวันนี้ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงโครงการ พร้อมกับเปิดเวทีให้ชาวบ้าน ได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งการก่อสร้างได้แบ่งเป็น 3 ช่วง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 บ้านหัวหิน ระยะความยาวรวม 1,353 เมตร ด้วยงบประมาณกว่า 79 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบรรยากาศในการแสดงความคิดเห็นนั้น แตกออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่เห็นด้วย มองว่าจุดก่อสร้างเป็นโค้งน้ำเข้าหาตลิ่ง พื้นที่ดินริมแม่น้ำจะถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆ ทำให้ตลิ่งพัง ถนนและที่พักอาศัยทรุดตัว อาจทำอันตรายต่อประชาชน จนได้รับบาดเจ็บถึงเสียชีวิต การสร้างเขื่อนดังกล่าว จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน

แต่ทางด้านฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มองว่า ในการก่อสร้างโครงการจะต้องตัดต้นไม้ใหญ่ และมีผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ติดริมแม่น้ำ รวมไปถึงรถบรรทุกและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ จะทำให้ถนนเลียบแม่น้ำได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ในระหว่างโต้แย้งกันไปมานั้น ได้มีชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น ได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อีกทั้งการแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่นั้น จะนำเอาเรื่องส่วนตัวมาพูด  ชาวบ้านทั้งหมดที่มาร่วมนั่งรับฟัง จึงตัดสินใจลุกจากเก้าอี้พากันเดินออกจากที่ประชุม แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความเซ็ง  อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานที่รับผิดชอบโคงการ จะได้ดำเนินการเข้าพูดคุยสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ก่อนจะมีการดำเนินการก่อสร้างต่อไป