นายอำเภอบ้านโป่ง ตรวจสอบพระลูกวัดดัง พบใช้เอกสารของคนตาย สวมรอยเป็นตัวเองบวช

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 นายทศพล เผื่อนอุดม นอภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง สนธิกำลังตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบ พระสมชาย เพียรหาทอง อายุ 59 ปี (เป็นชื่อนามสกุลของคนที่ตายไปแล้วเมื่อ 15 ปี ที่ผ่านมา) ซึ่งเป็นพระลูกวัดดังแห่งหนึ่งใน  ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง  หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระสมชาย ชอบเดินทางไป-กลับ กรุงเทพมหานคร ทุกวัน ซึ่งขณะกำลังมีเชื้อโรคไวรัส โควิด-19 ระบาดทุกพื้นที่ โดยไม่ยอมให้ความร่วมมือในการกักตัวเองตามนโยบายควบคุมโรคของรัฐบาล

     
ซึ่งจากการตรวจสอบ พระสมชาย ใช้ชื่อตามทะเบียนบ้าน  นายสมชาย เพียรหาทอง และใบสุทธิบัตรพระสมชาย เพียรหาทอง  ออกที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ระนอง เมื่อปลายปี 2548 บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ระบุเป็นชาวอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี  เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร พบว่า นายสมชาย เพียรหาทอง  บุคคลดังกล่าวนั้น ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2548  เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวพระสมชาย มาที่ สภ.บ้านโป่ง  จากการสอบสวนพระสมชาย นั้นพูดภาษาไทย ไม่ค่อยชัดและพูดวกวนไปมา เมื่อจนต่อหลักฐานของเจ้าหน้าที่ พระสมชาย จึงขอทำการสึกตัวเอง ตรงบริเวณหน้าพระพุทธรูป ที่ตั้งอยู่ที่หน้าโรงพัก
 

   
สำหรับ นายสมชาย หรือพระสมชาย ขณะเป็นพระ ได้เดินทางมาขอจำพรรษาอยู่ที่วัดดังกล่าวใน ต.หนองกบ ตั้งแต่ ปี 2554 ต่อมาภายหลังมีพฤติกรรม ออกกจากวัด ช่วงเวลาเช้ามืดเกือบทุกวัน  โดยจะนั่งรถไฟที่สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก อยู่ห่างจากวัดประมาณ  500 เมตร  เดินทางเข้ากรุงเทพ และจะกลับมาตอนช่วงบ่ายๆ จะอ้างว่ามีกิจนิมนต์ เมื่อกลับเข้าวัดก็จะเก็บตัวเงียบอยู่ในกุฏิด้านหลังของวัด ไม่ค่อยสวดมนต์และทำกิจของสงฆ์ร่วมกับพระในวัด  จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พระสมชายหรือนายสมชาย นั้นเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่เมืองไทย อาศัยบวชเป็นพระเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยสวมใช้ชื่อคนที่ตายไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป