พบรถยนต์คู่อริจอดทิ้ง สุดแค้นบังอาจจีบหญิงที่หมายปอง ยิงถล่ม จุดไฟเผาเหลือแค่ซาก(ชมคลิปในข่าว)

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63 ร.ต.ท.กานต์  วิเวก รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบเผารถยนต์กระบะ เหตุเกิดถนนคลองชลประทานไผ่สามเกาะ-โพธาราม หมู่ 7 บ้านไผ่สามเกาะ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จึงพร้อม พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.ธารา ศรีพรมคำ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส. กำลังชุดสืบสวนและสายตรวจตำบลเขาขลุง รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน ห่างจากคลองชลประทานประมาณ 30 เมตร เหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ หมายเลขทะเบียน บว 2082 ราชบุรี สภาพถูกไฟไหม้ทั้งคันเหลือแต่ซาก นอกจากนั้นบริเวณฝาเปิดกระบะท้ายและข้างไฟเลี้ยว มีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนเป็นรูพรุน บนพื้นถนนห่างจากท้ายรถยนต์กระบะเล็กน้อย เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 8 ปลอก ตกเกลื่อนพื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังพบ นายพลาดล จำเหล่ อายุ 23 ปี และนายอนุวัฒน์ ผลอุดม อายุ 23 ปี ทั้งสอง บ้านพักอาศัยอยู่ ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี  ซึ่งมากับรถกระบะคันดังกล่าว กำลังยืนดูสภาพรถที่ถูกไฟไหม้เหลือแต่ซากด้วยสีหน้าที่ตื่นตะหนก 

จากการสอบสวน ทราบว่า ช่วงค่ำวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายพลาดล และนายอนุวัฒน์ ได้ขับรถกระบะดังกล่าว มาร่วมงานวันเกิดของ น.ส.เฟิร์น เพื่อนสาว ภายในหมู่บ้านไผ่สามเกาะ ห่างจากจุดที่เกิดเหตุไปประมาณ 5 กม. ระหว่างอยู่ในงานนั้น ก็ได้มี นายเอก ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งชอบพอ น.ส.เฟิร์น ได้พาเพื่อนๆประมาณ 10 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาร่วมงานด้วย  และได้เกิดเขม่นถึงขั้นชกต่อยกับ นายพลาดล และนายอนุวัฒน์  เพราะเข้าใจว่าทั้งสอง จะมาแย่งจีบ น.ส.เฟิร์น  ชาวบ้านที่มาร่วมงาน ได้ช่วยกันห้ามเอาไว้ และให้ทั้งสองกลุ่ม แยกย้ายกันกลับ 

 นายอนุวัฒน์ และนายนายพลาดล จึงได้ขับรถยนต์กระบะมุ่งหน้าจะกลับบ้านที่ อ.โพธาราม แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถยนต์เกิดน้ำมันหมด ทั้งสองจึงช่วยกันดันรถยนต์เข้าไปจอดตรงลานหน้าบ้าน ชาวบ้านแถวนั้น พร้อมกับโทรศัพท์ ให้ญาติที่บ้าน ขับรถยนต์มารับ โดยทิ้งรถกระบะไว้ เวลาเช้าจึงจะนำน้ำมันมาเติมเพื่อขับกลับ  ระหว่างนั้น นายเอกและเพื่อนๆได้พากันขับรถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าจะกลับบ้านพักเช่นกัน โดยใช้เส้นทางเดียวกัน และบังเอิญมาพบรถยนต์ ของทั้งสองจอดอยู่ ด้วยความแค้น จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะแบบไม่ยั้งเสียงดังสนั่นพร้อมกับจุดไฟเผารถ ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนและเห็นไฟกำลังไหม้รถทั้งคัน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาเพราะกลัวจะได้รับอันตราย โดยกลุ่มที่ก่อเหตุได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไป  รุ่งเช้าชาวบ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงและเผารถครั้งนี้ มาดำเนินคดีต่อไป