พิษไวรัสโควิด ปิดตลาดค้าส่งหลายพื้นที่ กระทบเกษตรกร ราคาผัก ตกฮวบ

ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ของทุกปี  เป็นช่วงที่เกษตรกร จะนำผลผลิตทั้งผักและผลไม้ต่างๆออกจำหน่าย ด้วยปริมาณการบริโภคทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้น  แต่ปัจจุบันตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ตลอดจนตลาดนัดหลายแห่ง ทั้งใน กทม. นครปฐม และสมุทรสาคร ต่างถูกปิด เนื่องมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ผลผลิตของเกษตรกรที่ออกมา จึงถูกส่งเข้ามายังตลาดกลางค้าส่งผักและผลไม้ จ.ราชบุรี จนล้นตลาด  ประกอบกับพื้นที่ภาคใต้ มีพายุฝน ในแต่ละวันผู้ค้าจึงต้องเร่งขายออกให้หมด ไม่อย่างนั้นสินค้าจะเสียหายและขาดทุนในที่สุด  ส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดราชบุรี เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักสวนครัวอันดับต้นๆของประเทศ   

นายเฉลิม ดวงตา อายุ 50 ปี หนึ่งในเกษตรกร พื้นที่ ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  และยังเป็นพ่อค้ารับซื้อพืชผักประจำหมู่บ้าน  เปิดเผยว่า  ตนทำอาชีพปลูกผักมาประมาณ  20 ปี  ในเนื้อที่ 5 ไร่ ซึ่งตนจะปลูกพืชในลักษณะหมุนเวียนไปตามฤดูกาล และความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังเปิดรับซื้อพืชผักสวนครัวของชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองปลาหมอ  ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาเป็นหลัก และปลูกพืชผักไว้เป็นรายได้เสริม  จากนั้นตนก็จะรวบรวมแล้วนำไปส่งขายที่ตลาดกลางค้าส่งผักและผลไม้  แต่ปัจจุบันตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ตลอดจนตลาดนัดหลายแห่ง ต่างถูกปิด เนื่องมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19

ส่งผลทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรแทบทุกชนิดตกต่ำลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างแตงกวา ซึ่ง 1 สัปดาห์ก่อน ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 - 18 ปัจจุบันเหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 - 8 บาท และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 - 15 บาท แตงร้านราคาเหลือกิโลกรัมละ 4 - 5 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคากิโลกรัมละ 16 – 18 บาท และถั่วฟักยาวปัจจุบันเหลือเพียงกิโลกรัมละ 8 บาท จากที่ควรจะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 - 30 บาท  ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าในช่วงต้นปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ครั้งแรก ยังไม่ส่งผลกระทบกับเกษตรกรมากนัก เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ในปัจจุบัน   เนื่องจากรูปแบบการบริหารจัดการจำกัดพื้นที่ควบคุมโรคของทางภาครัฐ และลักษณะการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ตนและเกษตรกรคนอื่นๆในพื้นที่ คงต้องตัดสินใจทำลายผลผลิตที่ปลูกไว้ทิ้ง เพื่อลดต้นทุน แล้วทำการปลูกใหม่ทดแทนในรอบการผลิตต่อไป