วัดหนองเสือยางประสาท ทำบุญ เปลี่ยนจีวรสรีระสังขาร หลวงปู่คิ้ม พระเกจิดังลุ่มน้ำแม่กลอง

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 พระมหาสุกฤติ สุขวฑฺฒโก เจ้าอาวาสวัดหนองเสือ ยางปราสาท หมู่ 6 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมคณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ ได้จัดพิธีทำบุญ ครบรอบ 3 ปี วันคล้ายวันมรณภาพ พระครูพิพิธกิตติคุณ (หลวงพ่อคิ้ม คุณากโร ) อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองเสือยางประสาท เกจิดังลุ่มน้ำแม่กลอง พร้อมประกอบพิธีเปลี่ยนจีวรสรีระสังขารไม่เน่าไม่เปื่อยของหลวงปู่คิ้ม ที่บรรจุไว้ภายในโลงแก้ว  

พระมหาสุกฤติ สุขวฑฺฒโก เจ้าอาวาสวัดหนองเสือยางปราสาท เปิดเผยว่า ในช่วงที่หลวงปู่คิ้ม ยังมีชีวิต ได้ปรารภว่า หลังจากที่ท่านมรภาพไปแล้ว ให้นำสังขารบรรจุไว้ในโลงแก้ว ทั้งนี้เพื่อให้เป็นมรณานุสติแก่บรรดาญาติโยม และพุทธบริษัทให้เร่งบำเพ็ญบุญสร้างกุศล  สำหรับพิธีเปลี่ยนจีวรสรีระสังขารหลวงปู่คิ้ม ทางวัดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม ของทุกปี เพื่อเป็นการทำความสะอาดสรีระสังขารด้วยแอลกอฮอล์และเปลี่ยนผ้าห่มจีวร รวมไปถึงทางคณะสงฆ์ของวัดและศิษยานุศิษย์ ได้จัดทำบุญเลี้ยงพระ และยังได้จัดให้มีพิธีสวดเจริญพุทธมนต์ ณ วิหารหลวงปู่คิ้ม ทุกวันพระ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูด้วยการปฏิบัติบูชาต่อครูบาอาจารย์

นอกจากนี้ทางวัดหนองเสือ ยังได้เตรียมสานต่องานก่อสร้าง “พระพุทธสีหนาถบรมพุทโธ หรือหลวงพ่อเสือ” พระพุทธรูปปางเปิดโลก ขนาดความสูง 13 เมตร โดยที่หลวงปู่คิ้ม ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ด้วยตนเอง ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ  ซึ่งหลวงปู่คิ้ม เคยกล่าวว่า “การสร้างพระพุทธรูปนี้ นอกจากจะเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ซึ่งมีอานิสงส์มากทำให้เข้าถึงนิพพานได้ง่าย” นับเป็นงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้านปูชะนีวัตถุสุดท้าย

สำหรับ พระครูพิพิธกิตติคุณ หรือหลวงปู่คิ้ม มีชื่อเดิมว่า นายคิ้ม บุตรธรรม เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2470 ที่บ้านดอนเสลา ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เป็นบุตรชายคนโต ของนายตุ๊ และนางปุ่น บุตรธรรม  เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2492  ณ พระอุโบสถวัดดอนเสลา โดยมี พระครูปัญญาธิกา หรือหลวงพ่อเต่า วัดดอนตูม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสภณรัตนากร หรือหลวงพ่อเพิ่ม วัดดอนตูม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์อินทร์ จันทโชโต หรือหลวงพ่ออินทร์ วัดดอนเสลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “คุณากโร”  ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในร่มกาสาวพักต์ หลวงปู่คิ้มได้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในเรื่องการศึกษา และการทำงานเพื่อพระศาสนา ต่อมาในปี 2507 จึงได้รับตราตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2543 มหาเถรสมาคมมีมติให้เลื่อน พระครูพิพิธกิตติคุณ ตำแหน่ง พระครูเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท เป็นชั้นพิเศษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9

 หลวงปู่คิ้ม ยังมีความสนใจศึกษาวิชาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์อินทร์ จันทโชโต วัดดอนเสลา เรียนเขียนอ่านภาษาขอมกับพระครูปัญญาธิกา หรือ หลวงพ่อเต่า วัดดอนตูม  ได้รับการถ่ายทอดวิชาเป่ายันต์เกราะเพชรและวิชาต่อดวงเสริมชะตาชีวิต จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่คิ้ม ได้รับการกล่าวขนานในเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย และเมตตามหานิยม ไปทั่ว 

 ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองเสือ หลวงปู่คิ้ม เป็นพระผู้มีเมตตาสูง ช่วยเหลือสังคม ได้นำชาวบ้านสร้างถนน สร้างความเจริญมาสู่บ้านหนองเสือ และ ต.กรับใหญ่  นอกจากนั้นยังสนับสนุนด้านการศึกษา โดยได้ก่อสร้างอาคารเรียนและมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดี ความประพฤติดี แต่ขาดทุนทรัพย์ รวมถึงส่งเสริมการศึกษาพระธรรมให้กับพระสงฆ์ มาโดยตลอด  กระทั่งเดือนกันยายน ปี 2558 หลวงปู่เริ่มอาพาธและถูกส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง ด้วยอาการเลือดออกในช่องท้อง จากนั้นจึงเข้ารับการรักษาต่อยังโรงพยาบาลธนบุรี 1 โดยผลตรวจอย่างละเอียดพบว่าเป็นมะเร็งตับ และมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2561  สิริอายุรวม 91 ปี พรรษา 70 พรรษา