ทหารและฝ่ายปกครอง รวบตัว ชาวเมียนมาร์ หนีโควิด-19 เข้ามาทางชายแดนไทย อ.สวนผึ้ง

                             

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.63 นายชนันท์ อินทรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้นำตัวชาวเมียนมาร์ 3 คน เป็นชาย 2  คน หญิง 1 คน ซึ่งถูกจับกุม ส่งมอบให้ ร.ต.อ.ประดิษฐ์  คงเปรม พนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง ดำเนินคดี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย  ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ โดยกองร้อยทหารพรานที่ 1102 ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.สวนผึ้ง และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดราชบุรี(ตม.จ.ราชบุรี) ได้จับกุมบุคคลทั้งสามได้ ที่บริเวณช่องทางธรรมชาติ ถนนเส้นทางขึ้น โรงเรียน ตชด.ตะโกปิดทอง หมู่ 8 บ.ตะโกล่าง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

นายชนันท์ อินทรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.สวนผึ้ง เปิดเผยว่า นายแอกี่ โทจา ผู้ต้องหาคนที่ 1 เป็นบุคคลพื้นที่สูง เคยเข้าออกบริเวณชายแดนไทย–เมียนมาร์  ตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากมีบ้านญาติ อยู่ในฝั่งไทย ซึ่งนายแอกี่ โทจา ทำไร่พริกอยู่ในฝั่งเมียนมาร์ และเคยเป็นสมาชิกของกลุ่ม KNU  ส่วนอีกสองคน ชื่อ นายชาย และนางสาวบีโบวา ไม่มีบัตรอะไรเลย และอ้างว่าเคยอยู่ในศูนย์อพยพ บ้านถ้ำหิน แต่เมื่อตรวจสอบประวัติแล้วไม่มี ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ระบาด  ชายแดนไทย ด้าน อ.สวนผึ้ง ทั้ง 13  ช่องทาง ถูกปิดหมดเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาในเขตไทย ทั้งสามคนนั้นกทำไร่ในฝั่งประเทศเมียนมาร์   ต่อมา เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ระบาด ในประเทศเมียนมาร์  ทำให้ทั้งสามคน กลัวจะติดโรคเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงพากันแอบลักลอบเข้ามาในประเทศไทย  แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับได้เสียก่อน  

นายชนันท์ ปลัดอาวุโส อ.สวนผึ้ง กล่าวต่อไปว่า หลังจากจับกุม ได้นำตัวไปพักไว้ที่ศูนย์มามาเรีย  พื้นที่ตะโกล่าง  ซึ่งเป็นสถานที่กักกันตัว  ของอำเภอสวนผึ้ง ที่จัดไว้สำหรับผู้ที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน  พร้อมทั้งทำการตรวจคัดกรอง วัดไข้  เบื้องต้นยังไม่พบว่าทั้ง 3 คน ที่อุณหภูมิสูง  นอกจากนี้ยังให้หน่วยงานสาธารณสุข เข้ามาทำการนำสารคัดหลั่งไปตรวจสอบหาเชื้อ โควิด  ซึ่งในขั้นตอนของดำเนินการนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการทำบันทึกจับกุม พร้อมกับนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวนสภ.สวนผึ้ง เพื่อดำเนินคดี  และเตรียมผลักดันออกนอกประเทศต่อไป